Intihuatana หรือ Hitching Post of the Sun
เป็นที่เว็บพนันออนไลน์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำรู้จักกันดีในบรรดาหินแกะสลักศักดิ์สิทธิ์และศาลเจ้าหลายแห่งของ Machu Picchu ซากปรักหักพังของ Inca โบราณที่ซ่อนอยู่เป็นเวลา 400 ปีจนกระทั่งถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีมหาวิทยาลัยเยล Hiram Bingham ในปี 1911 นำมาจากอาณาจักรอินคาโดย Max Milligan (HarperCollins, £29.99)
มาชูปิกชู (สเปน: Machu Picchu), มาจูปิกจู (เกชัว: Machu Pikchu) หรือนิยมเรียกอีกชื่อว่า เมืองสาบสูญแห่งอินคา เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู ที่ความสูงประมาณ 2,430 เมตร[1][2] อารยธรรมแห่งนี้ได้ถูกคนภายนอกลืมจนกระทั่งมีการค้นพบอีกครั้งโดยนักโบราณคดีที่ชื่อไฮแรม บิงแฮม
มาชูปิกชูเป็นหลักฐานที่สำคัญของจักรวรรดิอินคา ใน ค.ศ. 1983 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนมาชูปิกชูให้เป็นแหล่งมรดกโลก โดยทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปศึกษาประวัติศาสตร์
7 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 มาชูปิกชูได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่[3] แต่หลักฐานจากเอกสารโบราณจำนวนมากชี้ว่า ชื่อของมันคือ “อวยนาปิกชู” (Huayna Picchu) หรือ “ปิกชู” (Picchu) ต่างหาก ผลการศึกษานี้ตีพิมพ์ในวารสาร Ñawpa Pacha ของสถาบันอาณาบริเวณศึกษาแถบเทือกเขาแอนดีส (IAS) โดยทีมผู้วิจัยระบุว่าได้สืบค้นข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่นแผนที่ซึ่งระบุชื่อสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงศตวรรษที่ 19 เอกสารจากนักล่าอาณานิคมชาวสเปนในศตวรรษที่ 17 รวมทั้งบันทึกข้อมูลภาคสนามต้นฉบับของไฮรัม บิงแฮม (Hiram Bingham) นักสำรวจชาวอเมริกันผู้ค้นพบมาชูปิกชูเมื่อปี 1911 ด้วย
ประวัติ
คาดว่ามาชูปิกชูสร้างขึ้นราว ค.ศ. 1450[5] โดยจักรพรรดิปาชากูตีของชาวอินคา[6] มาชูปิกชู ถูกปล่อยทิ้งไว้นับร้อยปี เพราะชาวสเปนได้เข้ามาล่าอาณานิคม และฆ่าชาวเปรูและชาวอินคา เมืองอินคาเลยถูกปล่อยร้างไว้[5] แต่ไฮแรม บิงแฮม ค้นพบเมืองร้างแห่งนี้เมื่อ ค.ศ. 1911 แล้วแพร่ข่าวไปทั่วโลก
การบูชายันมนุษย์และความลึกลับ
มีแหล่งข้อมูลน้อยนักที่กล่าวถึงการบูชายัญมนุษย์ที่มาชูปิกชู แม้ว่าผู้ถูกบูชายัญจะไม่เคยถูกฝังอย่างเป็นพิธีแต่กระดูกของพวกเขาก็ได้ถูกย่อยสลายไปกับธาตุ[7]:115 อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานว่าผู้ติดตามต้องถูกบูชายัญเพื่อติดตามขุนนางผู้ล่วงลับไปยั้งชีวิตหลังความตาย[7]:107,119 การบูชายัญสัตว์ ของเหลวและดินที่แท่นบูชาคอนดอร์จะพบเห็นได้บ่อยกว่ามาก ประเพณีนี้ได้รับการยอมรับจากสมาชิกของศาสนายุคใหม่แอนดีส[8]:263
ที่ตั้ง
ตำแหน่งที่ตั้งของมาชูปิกชู
มาชูปิกชูตั้งอยู่ห่างจากเมืองกุสโกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 70 กิโลเมตรบนยอดของทิวเขามาชูปิกชู ที่ระดับ 2,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล สถานที่แห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางที่มีความสำคัญยิ่งทางโบราณคดีของอเมริกาใต้ และเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวเกือบทุกคนที่มาเยือนประเทศเปรู
จากยอดเขา ณ หน้าผามาชูปิกชู เป็นหน้าผาที่มีลักษณะดิ่งชันสูงถึง 600 เมตรจากฐานที่เป็นแม่น้ำคือ แม่น้ำอารูบัมบา ที่ตั้งของตัวเมืองนับเป็นความลับทางการทหารก็เนื่องจากการเป็นหน้าผาสูงชันที่มีอันตรายที่เป็นปราการป้องกันธรรมชาติอันยอดเยี่ยมนั่นเอง
ใน ค.ศ. 2017 มีผู้คนประมาณ 1,411,279 คน ไปท่องเที่ยวที่มาชูปิกชู[9] และยูเนสโกได้ส่งข้อความสารแสดงถึงความเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่ไปเป็นจำนวนมาก แต่ทางผู้มีอำนาจของทางเปรูบอกว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ถึงอย่างไรการคัดค้านนั้นทำให้มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ที่ไปเที่ยวชมและจำกัดจำนวนผู้เข้าชม และได้มีการเสนอให้ติดตั้งรถกระเช้า[10] แต่ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธอยู่ตลอดและดูไม่มีทางจะเป็นไปได้ทุกที[11]
หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบบรรทัดแรกของข้อเสนอระดับปริญญาเอกล่าสุด: “ทุกปีตั้งแต่ปี 1950 จำนวนเด็กอเมริกันที่ถูกยิงเพิ่มขึ้นสองเท่า” เริ่มต้นด้วยการเสียชีวิตหนึ่งครั้งในปี 2493 ซึ่งหมายความว่ามากกว่าประชากรโลกในปัจจุบันจะต้องเสียชีวิตในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ดีที่สุดติดตามการอ้างอิงถึงการกลายพันธุ์ที่มีสีสันของรายงานปี 1994 ที่“ จำนวนเด็กอเมริกันที่ถูกสังหารในแต่ละปีด้วยปืนเพิ่มขึ้นสองเท่าตั้งแต่ปี 1950”เว็บพนันออนไลน์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ